วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

รีวิวทริปเชียงใหม่-ลำพูน Day 3 (วัดพระธาตุดอยคำ อุทยานหลวงราชพฤกษ์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี)

     เริ่มต้นเช้าวันที่สามของการมาเที่ยวเชียงใหม่ด้วยการมาไหว้พระและชมวิวที่วัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งวัดพระธาตุดอยคำอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมของเราเท่าไรนัก และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ละแวกเดียวกับอุทยานหลวงราชพฤกษ์และเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีที่เราตั้งใจว่าจะไปเที่ยวในวันนี้ 
     วันนี้ออกเดินทางตั้งแต่ 07.30 น. ส่วนการเดินทางมาวัดพระธาตุดอยคำ ให้ใช้เส้นทางเดียวกันกับที่มาอุทยานหลวงราชพฤกษ์ เมื่อถึงอุทยานหลวงราชพฤกษ์ให้เลยไปทางขวามือก่อน จะมีป้ายบอกไปวัดพระธาตุดอยคำตลอดทาง วัดพระธาตุดอยคำตั้งอยู่บนเขา สามารถมองเห็นตัววัดได้จากทางด้านล่าง ส่วนเส้นทางไปวัดไม่ชันมากนัก ขี่รถจากตีนเขาประมาณ 10 นาทีก็ถึง เมื่อมาถึงวัดก็จะเห็นองค์พระองค์ใหญ่มาก 




       ถัดมาจะเจออนุสาวรีย์พระนางจามเทวี

อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี
     จากนั้นเดินไปทางขวามือจะเจอป้ายชื่อวัดและถัดไปจะเป็นทางเดินเข้าไปยังบริเวณที่มีพระธาตุดอยคำประดิษฐานอยู่


     เดินผ่านประตูเข้ามาก็จะเห็นองค์พระธาตุดอยคำ เราก็เดินวนรอบพระธาตุ 3 รอบ พร้อมกับสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ตลอดเวลาก็จะสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็น ถึงกับต้องใส่ถุงมือเลยทีเดียว

พระธาตุดอยคำ

     เดินวนรอบพระธาตุเสร็จแล้ว เราก็เดินต่อมายังจุดชมวิว ซึ่งจะเป็นลานกว้างๆ ยื่นหน้าออกไปทางอุทยานหลวงราชพฤกษ์

จุดชมวิว

ด้านล่างเป็นอุทยานหลวงราชพฤกษ์ แต่ใช้กล้องมือถือถ่าย ย้อนแสงสุดพลัง
          
จากจุดชมวิว มองย้อนเข้าไปในตัววัด
     หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่วัดดอยคำแล้ว เวลาประมาณ 08.30 น. ก็ขี่รถรถลงมาที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ โดยที่นี่จะมีลานจอดรถให้ฟรี แต่ไม่มีร่มบังให้ ตอนกลางวันรถก็อาจจะต้องตากแดดหน่อย
     ก่อนเข้าชมภายใน เราก็ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท เมื่อผ่านประตูเข้ามาแล้ว เราก็เดินเลี้ยวไปทางขวามือเพื่อซื้อตั๋วขึ้นรถรางวิ่งรอบอุทยาน ซึ่งรถรางนี้เราจะขึ้นลงตรงจุดไหนก็ได้ รถจะวิ่งวนตลอด แต่ตั๋ว 1ใบสามารถใช้บริการได้แค่รถวิ่งครบ 1 รอบเท่านั้น


     ภายในจะมีแสดงการจัดสวนของประเทศต่างๆ พร้อมทั้งมีการเปิดเพลงพระราชนิพนธ์คลอไปด้วยแต่ไม่มีกิจกรรมอะไรมาก แค่ถ่ายรูปเท่านั้น 




"หอคำหลวง" ที่ใครๆมาก็ต้องถ่ายรูปกลับไป

ภายในหอคำหลวง
                  

     เมื่อมาถึงโซนสวนของประเทศจีน เราโชคดีมากที่มาตรงกับช่วงที่มีจัดเทศกาลตรุษจีนพอดี โดยเขามีกิจกรรมสาธิตการชงชา พร้อมทั้งให้ชิมชาฟรี



    จากนั้นเราก็ขึ้นๆลงๆ รถรางเพื่อเก็บรูปสวนโซนต่างๆ ระหว่างทางก็จะมีร้านขายอาหารตามจุดที่ขึ้นลงรถ เราก็กินอาหารที่ร้านค้าในนี้เป็นมื้อเช้า อาหารที่ขายจะเป็นพวกไส้อั่ว หมูยอ ลูกชิ้นทอด รสชาติพอรับได้




     เมื่อเราชมอุทยานหลวงราชพฤกษ์จนทั่วแล้ว ประมาณ 12.30 น. เราก็ขี่รถย้อนกลับมาเส้นทางเดิมที่ขี่มาจากโรงแรม เพื่อเติมน้ำมันและแวะกินอาหารกลางวันที่กาดๆหนึ่ง จำชื่อไม่ได้ ตั้งอยู่บนถนนรอบเมืองเชียงใหม่ โดยที่นี่จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นโซนที่ขายพวกไส้อั่ว น้ำพริกและของแห้งอย่างอื่น ส่วนที่ 2 จะเป็นโซนของศูนย์อาหาร มีหลายร้านให้เลือกซื้อเลือกกิน 
      หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จแล้วเราก็ขี่รถตามป้ายกลับไปทางอุทยานราชพฤกษ์เพื่อไปเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี 
     เมื่อมาถึงทางเข้าจะต้องลดความเร็วลงเพราะบนถนนมีน้ำยาฆ่าเชื้อ จึงต้องขี่ช้าๆเพื่อไม่ให้น้ำยากระเด็น จากนั้นเราก็ตามหาที่จอดรถกัน ตลอดทางจากทางเข้าถึงลานจอดรถจะมีฝูงกวางเล็มหญ้ากินให้เห็นอยู่ตลอดทาง บางส่วนก็เดินเพ่นพ่านกันเต็มไปหมด ไม่มีท่าทีกลัวรถเลย
     พอเราจอดรถเสร็จเรียบร้อย ก็เดินไปซื้อตั๋วเข้าสวนสัตว์ ระหว่างทางก็จะผ่านร้านกาแฟกับห้องอาหารยีราฟ หลังจากที่เราได้ตั๋วและแผนที่มาแล้ว ก็เดินย้อนกลับออกมานั่งพักดื่มเครื่องดื่มเย็นๆกับกินเค้กที่ร้านกาแฟด้านหน้าเนื่องจากอากาศร้อนมากและต้องการชาร์จแบตโทรศัพท์ด้วย ส่วนเครื่องดื่มของที่นี่รสชาติเข้มข้นใช้ได้ เค้กก็อร่อยดี
      หลังจากที่เราชาร์จแบตโทรศัพท์เต็มแล้ว บวกกับอากาศเริ่มเย็นลงบ้าง ก็ตัดสินใจว่าจะไปเดินดูสัตว์กันเลย 
     ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนแรกเป็นโซนที่เราสามารถเดินชมสัตว์ได้คือ Walking Zone เป็นการจัดแสดงสัตว์ที่อยู่รอบสระน้ำใหญ่ อีกโซนคือโซนที่จะต้องนั่งรถชม มีทั้งกลางวัน(เดย์ซาฟารี)และกลางคืน(ไนท์ซาฟารี)
    เราใช้เวลาในการเดินชมสัตว์บริเวณ Walking Zone ประมาณชั่วโมงกว่าๆ 

















         เสร็จแล้วก็มาดูโชว์เสือกัน



     จากนั้นประมาณ 19.00 น. ก็ได้เวลาของนั่งรถชมสัตว์ไนท์ซาฟารีรอบแรก ก่อนไปขึ้นรถรางเราสามารถซื้อผักเพื่อเอาไปให้สัตว์ได้ ซึ่งเขาจะขายเป็นตะกร้า ตะกร้าละ 20 บาท ปริมาณน้อยมาก เมื่อเข้าไปในส่วนที่ชมสัตว์ รถจะหยุดให้เราถ่ายรูปสัตว์เป็นระยะ ที่ตัวรถรางจะมีไฟส่องสัตว์ พร้อมทั้งมีไกด์อธิบายประกอบตลอดทาง ที่นี่อากาศตอนกลางคืนเย็นสบายดี 





      ในที่สุดเราก็ชมไนท์ซาฟารีเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ประทับใจมากๆ แต่ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวอีก คงจะลองเดย์ซาฟารีดูบ้าง ถึงอากาศจะร้อนแต่คงได้เห็นบรรดาน้องสัตว์ทั้งหลายแบบชัดๆ จากนั้นเราก็เดินมาที่บริเวณลานกว้างหน้าสระน้ำซึ่งจะมีการแสดงคาบาเร่ต์โชว์และการแสดงน้ำพุประกอบดนตรี โดยทั้งสองการแสดงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง  หลังจากที่การแสดงคาบาเรต์โชว์จบแล้ว นักท่องเที่ยวก็เริ่มทยอยเดินทางกลับ เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ก่อนเดินทางกลับก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้อของที่ระลึก โดยจะมีร้านขายของที่ระลึกอยู่ด้านหน้าบริเวณประตูทางออก เดินดูของนานมาก ได้ Magnet ติดตู้เย็นมาอันเดียว เพราะของแต่ละอย่างราคาค่อนข้างสูง 
     เราออกเดินทางจากไนท์ซาฟารีเวลาประมาณ 21.30 น. แล้วก็มุ่งหน้าไปยังกาดหน้ามอเพื่อกินอาหารมื้อค่ำ คืนวันนี้เรากินหมูกะทะ เพราะหิวมากๆ เลยอยากกินอะไรหนักๆหน่อย ที่กาดหน้ามอมีร้านหมูกะทะเยอะมาก หน้าตาคล้ายๆกันหมดทุกร้าน ราคาก็ไม่ต่างกันมากนัก เราก็เลยสุ่มๆเลือกมาร้านนึง ร้านที่เราเลือกเป็นร้านที่มีทั้งเตาปิ้งย่าง และหม้อสุกี้ให้ด้วย รสชาติก็โอเค แต่ครั้งหน้าคงไม่กินแล้ว คุยกับพนักงานไม่ค่อยรู้เรื่อง เหมือนเขาจะไม่ใช่คนไทย อิอิ จากนั้นกินโรตีเป็นของหวาน อร่อยมากๆ ติดใจ ครั้งหน้าจะกลับไปกินอีกแน่นอน เสร็จแล้วก็รีบขี่รถกลับโรงแรมไปพักเตรียมตัวกลับกทม.วันรุ่งขึ้น 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น